อนาคตของการสร้างภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วยการเข้ามาของ AI ไม่ใช่แค่ในส่วนของ Special Effects อีกต่อไป แต่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทตั้งแต่การเขียนบท การคัดเลือกนักแสดง ไปจนถึงการตัดต่อภาพยนตร์เลยทีเดียว!
ฉันเองก็ตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เห็นว่า AI จะเปลี่ยนแปลงวงการภาพยนตร์ไปในทิศทางไหนบ้าง จะทำให้เราได้ชมภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์และน่าตื่นเต้นมากขึ้นขนาดไหนกันนะ?
หรือบางทีเราอาจจะได้เห็นผู้กำกับที่เป็น AI ก็เป็นได้! ที่สำคัญ AI อาจช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์อิสระมีโอกาสสร้างผลงานได้ง่ายขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลงอีกด้วยนะในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจจะได้เห็นการใช้ AI ในการวิเคราะห์ความชอบของผู้ชม เพื่อสร้างภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากขึ้น หรืออาจจะมีการใช้ AI ในการสร้างตัวละครเสมือนจริงที่สมจริงจนแทบแยกไม่ออกเลยทีเดียว!
แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเข้ามาของ AI ก็อาจจะทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์และความเป็นเจ้าของผลงานด้วยเช่นกันแน่นอนว่ามันน่าสนใจมากๆเลยใช่มั้ยล่ะครับ?
เรามาทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่างกันไปเลย!
## AI จะปฏิวัติการเขียนบทภาพยนตร์ได้อย่างไร? การเขียนบทภาพยนตร์ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ แต่กระบวนการนี้ก็มักจะใช้เวลานานและต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์อย่างมาก AI สามารถเข้ามาช่วยนักเขียนบทในการระดมความคิด สร้างโครงเรื่องที่น่าสนใจ หรือแม้กระทั่งช่วยเขียนบทสนทนาที่คมคายได้อีกด้วยนะ!
ลองนึกภาพว่า AI สามารถวิเคราะห์บทภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในอดีต เพื่อหาองค์ประกอบที่ทำให้ภาพยนตร์เหล่านั้นได้รับความนิยม แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาช่วยในการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องใหม่ มันคงจะเจ๋งมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ?
AI ช่วยสร้างโครงเรื่องที่น่าสนใจได้อย่างไร?
AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล เช่น บทภาพยนตร์ นิยาย หรือแม้กระทั่งข่าวสาร เพื่อหาแนวคิดและโครงเรื่องที่น่าสนใจได้ มันสามารถช่วยนักเขียนบทในการค้นหาไอเดียใหม่ๆ ที่พวกเขาอาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยในการพัฒนาโครงเรื่องให้มีความซับซ้อนและน่าติดตามมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
AI ช่วยเขียนบทสนทนาที่คมคายได้อย่างไร?
AI สามารถเรียนรู้รูปแบบการสนทนาจากบทภาพยนตร์และวรรณกรรมต่างๆ เพื่อสร้างบทสนทนาที่สมจริงและน่าสนใจได้ นอกจากนี้ AI ยังสามารถปรับแต่งบทสนทนาให้เข้ากับบุคลิกของตัวละครแต่ละตัวได้อีกด้วย ลองนึกภาพว่า AI สามารถเขียนบทสนทนาที่ตลกขบขัน เร้าอารมณ์ หรือแม้กระทั่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้ มันคงจะช่วยให้นักแสดงสามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ
AI จะเข้ามาแทนที่นักเขียนบทหรือไม่?
ถึงแม้ว่า AI จะสามารถช่วยในการเขียนบทภาพยนตร์ได้ แต่ฉันเชื่อว่ามันจะไม่สามารถเข้ามาแทนที่นักเขียนบทได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะนักเขียนบทคือผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีประสบการณ์ และมีความเข้าใจในเรื่องราวของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ยังไม่สามารถเลียนแบบได้ อย่างไรก็ตาม AI จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเขียนบท ช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมได้
AI จะเปลี่ยนโฉมการคัดเลือกนักแสดงได้อย่างไร?
การคัดเลือกนักแสดงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างภาพยนตร์ เพราะนักแสดงคือผู้ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์ของตัวละครให้กับผู้ชม AI สามารถเข้ามาช่วยในการคัดเลือกนักแสดงได้อย่างไรบ้าง?
ลองคิดดูสิว่า AI สามารถวิเคราะห์บุคลิก ลักษณะท่าทาง และทักษะการแสดงของนักแสดงแต่ละคน เพื่อหาคนที่เหมาะสมกับบทบาทนั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ มันคงจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการคัดเลือกนักแสดงไปได้มากเลยทีเดียว!
AI วิเคราะห์คุณสมบัติของนักแสดงได้อย่างไร?
AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับนักแสดง เช่น ประวัติการทำงาน วิดีโอการแสดง หรือแม้กระทั่งข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เพื่อประเมินความสามารถและบุคลิกของพวกเขาได้ นอกจากนี้ AI ยังสามารถใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) เพื่อวิเคราะห์สีหน้าและอารมณ์ของนักแสดงได้อีกด้วย
AI ช่วยจับคู่นักแสดงกับบทบาทที่เหมาะสมได้อย่างไร?
AI สามารถนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์คุณสมบัติของนักแสดง มาเปรียบเทียบกับความต้องการของบทบาทต่างๆ เพื่อหาคนที่เหมาะสมที่สุดได้ มันสามารถพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น รูปลักษณ์ภายนอก บุคลิกภาพ ทักษะการแสดง และประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่านักแสดงที่ได้รับการคัดเลือกจะสามารถถ่ายทอดบทบาทนั้นๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
AI จะทำให้เกิดนักแสดงเสมือนจริงหรือไม่?
ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นการสร้างนักแสดงเสมือนจริง (Virtual Actors) ที่สร้างขึ้นโดย AI นักแสดงเหล่านี้จะสามารถแสดงบทบาทต่างๆ ได้อย่างสมจริง โดยไม่ต้องมีตัวตนจริงๆ อยู่บนโลก นักแสดงเสมือนจริงอาจถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์ที่มีงบประมาณจำกัด หรือในฉากที่อันตรายเกินไปสำหรับนักแสดงจริงๆ
AI จะปฏิวัติการถ่ายทำภาพยนตร์ได้อย่างไร?
การถ่ายทำภาพยนตร์เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ทีมงานจำนวนมาก AI สามารถเข้ามาช่วยในการถ่ายทำภาพยนตร์ได้อย่างไรบ้าง? ลองนึกภาพว่า AI สามารถควบคุมกล้อง ควบคุมแสง และควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ในกองถ่ายได้อย่างแม่นยำ มันคงจะช่วยลดภาระของทีมงาน และทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยในการสร้าง Special Effects ที่น่าทึ่ง และช่วยในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกองถ่ายได้อีกด้วย
AI ควบคุมกล้องและอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างไร?
AI สามารถใช้ Computer Vision และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ภาพจากกล้อง และทำการปรับแต่งต่างๆ เช่น การซูม การแพน หรือการปรับโฟกัส เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามและคมชัด นอกจากนี้ AI ยังสามารถควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ในกองถ่าย เช่น ไฟ หรือเครน เพื่อให้การถ่ายทำเป็นไปตามแผนที่วางไว้
AI สร้าง Special Effects ที่น่าทึ่งได้อย่างไร?
AI สามารถใช้ Generative Adversarial Networks (GANs) เพื่อสร้าง Special Effects ที่สมจริงและน่าทึ่งได้ GANs ประกอบด้วยสองส่วน คือ Generator และ Discriminator Generator จะสร้างภาพ Special Effects ขึ้นมา ส่วน Discriminator จะพยายามแยกแยะว่าภาพนั้นเป็นภาพจริงหรือภาพที่สร้างขึ้นโดย Generator เมื่อ Generator สามารถสร้างภาพที่ Discriminator ไม่สามารถแยกแยะได้ ก็แสดงว่าภาพนั้นมีความสมจริงมาก
AI แก้ไขปัญหาในกองถ่ายได้อย่างไร?
AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ในกองถ่าย เช่น เซ็นเซอร์วัดแสง หรือเซ็นเซอร์วัดเสียง เพื่อตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น แสงไม่พอ หรือมีเสียงรบกวน นอกจากนี้ AI ยังสามารถให้คำแนะนำแก่ทีมงานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
AI จะเปลี่ยนรูปแบบการตัดต่อภาพยนตร์ได้อย่างไร?
การตัดต่อภาพยนตร์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างภาพยนตร์ เพราะมันคือการนำภาพและเสียงต่างๆ มาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเรื่องราวที่น่าติดตาม AI สามารถเข้ามาช่วยในการตัดต่อภาพยนตร์ได้อย่างไรบ้าง?
ลองนึกภาพว่า AI สามารถวิเคราะห์ฟุตเทจต่างๆ และทำการตัดต่อให้โดยอัตโนมัติ มันคงจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการตัดต่อไปได้มากเลยทีเดียว! นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยในการปรับแต่งสี ปรับแต่งเสียง และใส่เพลงประกอบให้กับภาพยนตร์ได้อีกด้วย
AI วิเคราะห์ฟุตเทจและทำการตัดต่อได้อย่างไร?
AI สามารถใช้ Computer Vision และ Natural Language Processing (NLP) เพื่อวิเคราะห์ฟุตเทจต่างๆ และทำความเข้าใจเนื้อหาของภาพยนตร์ได้ มันสามารถระบุฉากที่สำคัญ ระบุตัวละครหลัก และระบุอารมณ์ของตัวละครได้ จากนั้น AI จะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการตัดสินใจว่าจะตัดต่อภาพยนตร์อย่างไร
AI ปรับแต่งสีและเสียงได้อย่างไร?
AI สามารถใช้ Machine Learning เพื่อเรียนรู้สไตล์การปรับแต่งสีและเสียงจากภาพยนตร์ต่างๆ แล้วนำความรู้นั้นมาใช้ในการปรับแต่งสีและเสียงให้กับภาพยนตร์เรื่องใหม่ นอกจากนี้ AI ยังสามารถแนะนำเพลงประกอบที่เหมาะสมกับภาพยนตร์ได้อีกด้วย
AI จะทำให้เกิดภาพยนตร์ที่ปรับเปลี่ยนได้หรือไม่?
ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นภาพยนตร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของผู้ชม AI จะวิเคราะห์ปฏิกิริยาของผู้ชมขณะที่ดูภาพยนตร์ แล้วทำการปรับเปลี่ยนเนื้อหาหรือลำดับฉากให้เหมาะสมกับความชอบของผู้ชมแต่ละคน
AI จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างไร?
การเข้ามาของ AI จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ในหลายๆ ด้าน มันจะช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้น ในราคาที่ถูกลง และในเวลาที่สั้นลง นอกจากนี้ AI ยังจะเปิดโอกาสให้ผู้สร้างภาพยนตร์อิสระสามารถสร้างผลงานได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น
AI จะทำให้ภาพยนตร์มีคุณภาพสูงขึ้นได้อย่างไร?
AI จะช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถปรับปรุงคุณภาพของภาพยนตร์ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเขียนบท การคัดเลือกนักแสดง การถ่ายทำ การตัดต่อ ไปจนถึงการโปรโมท
AI จะทำให้ภาพยนตร์มีราคาถูกลงได้อย่างไร?
AI จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสร้างภาพยนตร์ในหลายๆ ด้าน เช่น ค่าจ้างนักเขียนบท ค่าจ้างนักแสดง ค่าอุปกรณ์ และค่าตัดต่อ
AI จะทำให้ภาพยนตร์ใช้เวลาน้อยลงได้อย่างไร?
AI จะช่วยลดเวลาในการสร้างภาพยนตร์ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเขียนบท การคัดเลือกนักแสดง การถ่ายทำ การตัดต่อ ไปจนถึงการโปรโมท
ความท้าทายและข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้ AI ในภาพยนตร์
ถึงแม้ว่า AI จะมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างมาก แต่ก็มีความท้าทายและข้อกังวลบางประการที่ต้องพิจารณา เช่น เรื่องลิขสิทธิ์และความเป็นเจ้าของผลงาน เรื่องความ Bias ของ AI และเรื่องผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ลิขสิทธิ์และความเป็นเจ้าของผลงาน
ใครจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นโดย AI? นักเขียนบท? โปรแกรมเมอร์ที่พัฒนา AI?
หรือบริษัทที่ลงทุนใน AI? เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน และต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
ความ Bias ของ AI
AI เรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งอาจมีความ Bias แฝงอยู่ หาก AI ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลที่มี Bias ก็อาจทำให้ AI สร้างผลงานที่มี Bias ได้เช่นกัน
ผลกระทบต่อแรงงาน
AI อาจเข้ามาแทนที่แรงงานในบางตำแหน่งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เช่น นักเขียนบท นักตัดต่อ หรือนักแสดง ทำให้เกิดการว่างงาน
ตารางสรุปบทบาทของ AI ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ขั้นตอนการสร้างภาพยนตร์ | บทบาทของ AI | ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|---|---|
การเขียนบท | ช่วยระดมความคิด สร้างโครงเรื่อง เขียนบทสนทนา | ประหยัดเวลา สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ | อาจขาดความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริง |
การคัดเลือกนักแสดง | วิเคราะห์คุณสมบัติ จับคู่นักแสดงกับบทบาท สร้างนักแสดงเสมือนจริง | แม่นยำ รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย | อาจละเลยความสามารถที่มองไม่เห็น |
การถ่ายทำ | ควบคุมกล้องและอุปกรณ์ สร้าง Special Effects แก้ไขปัญหา | แม่นยำ ปลอดภัย ลดภาระทีมงาน | อาจขาดความยืดหยุ่น |
การตัดต่อ | วิเคราะห์ฟุตเทจ ตัดต่อ ปรับแต่งสีและเสียง | รวดเร็ว ประหยัดเวลา สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ | อาจขาดความเข้าใจในอารมณ์ |
แน่นอนว่า AI ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่ศักยภาพของมันในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นมีอย่างมหาศาล! ในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจจะได้เห็นการใช้ AI ในการสร้างภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะพิจารณาถึงความท้าทายและข้อกังวลต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกันการเข้ามาของ AI ในวงการภาพยนตร์นั้นน่าตื่นเต้นมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ?
มันจะช่วยให้เราได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน แต่ก็อย่าลืมว่าเทคโนโลยีก็เป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น คนต่างหากที่จะเป็นผู้สร้างสรรค์เรื่องราวที่แท้จริง
บทสรุป
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่สนใจเรื่อง AI กับวงการภาพยนตร์นะคะ อย่าลืมติดตามข่าวสารและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยนะคะ รับรองว่าวงการภาพยนตร์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเลยล่ะค่ะ!
ถ้าใครมีความคิดเห็นหรือประสบการณ์เกี่ยวกับ AI ในวงการภาพยนตร์ ก็สามารถมาแชร์กันได้นะคะ ฉันรออ่านอยู่ค่ะ!
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ!
ข้อมูลน่ารู้
1. เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน (Busan International Film Festival) เป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จัดขึ้นทุกปีที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
2. สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย (Director Guild of Thailand) เป็นองค์กรที่รวมตัวของผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทย มีบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
3. กระทรวงวัฒนธรรม (Ministry of Culture) เป็นหน่วยงานภาครัฐของไทยที่มีหน้าที่ดูแลและส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ รวมถึงภาพยนตร์
4. Netflix (เน็ตฟลิกซ์) เป็นบริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์และซีรีส์ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีภาพยนตร์ไทยและซีรีส์ไทยให้เลือกชมมากมาย
5. SF Cinema (เอสเอฟ ซีเนม่า) เป็นเครือโรงภาพยนตร์ชั้นนำของไทย มีสาขาทั่วประเทศ
สรุปประเด็นสำคัญ
AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในหลายๆ ด้าน เช่น การเขียนบท การคัดเลือกนักแสดง การถ่ายทำ การตัดต่อ
AI สามารถช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้น ในราคาที่ถูกลง และในเวลาที่สั้นลง
ถึงแม้ว่า AI จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีความท้าทายและข้อกังวลบางประการที่ต้องพิจารณา เช่น เรื่องลิขสิทธิ์ ความ Bias และผลกระทบต่อแรงงาน
AI จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเขียนบท ช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมได้
เราอาจจะได้เห็นการสร้างนักแสดงเสมือนจริง (Virtual Actors) ที่สร้างขึ้นโดย AI ในอนาคต
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) 📖
ถาม: แล้ว AI จะเข้ามาแทนที่นักแสดงจริงๆ เหรอ?
ตอบ: โอ้โห เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันเยอะมากเลยครับ! คืออย่างงี้ ผมว่า AI คงไม่ถึงกับมาแทนที่นักแสดงจริงๆ หรอกครับ แต่ AI อาจจะช่วยนักแสดงในการสร้างตัวละครที่ซับซ้อนขึ้น หรือช่วยในการแสดงฉากที่อันตรายมากๆ ได้มากกว่า แต่เสน่ห์ของนักแสดงจริงๆ ที่มาจากความรู้สึกและประสบการณ์ชีวิต ผมว่า AI ยังเลียนแบบได้ยากนะครับ
ถาม: ถ้า AI สร้างหนังได้เองหมด แล้วใครจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ล่ะ?
ตอบ: นั่นสิ! เรื่องลิขสิทธิ์นี่แหละครับที่เป็นปัญหาใหญ่เลย คือถ้า AI สร้างหนังเองหมดจด ใครจะเป็นเจ้าของผลงาน? โปรแกรมเมอร์ที่สร้าง AI?
บริษัทที่ใช้ AI? หรือว่า AI เอง? (หัวเราะ) เรื่องนี้ต้องมีการออกกฎหมายมารองรับให้ชัดเจนเลยครับ เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครตอบได้เลย
ถาม: แล้ว AI จะทำให้หนังที่เราดูสนุกน้อยลงไหม? เพราะกลัวว่ามันจะคำนวณทุกอย่างจนเกินไป
ตอบ: ผมว่าก็มีสิทธิ์เป็นไปได้นะครับ ถ้าผู้สร้างหนังใช้ AI มากเกินไป จนลืมใส่ความเป็นศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ลงไป แต่ในทางกลับกัน ถ้าใช้ AI อย่างชาญฉลาด มันก็อาจจะช่วยให้หนังสนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้นก็ได้นะ คือมันอยู่ที่ว่าเราจะใช้มันยังไงมากกว่าครับ!
📚 อ้างอิง
Wikipedia Encyclopedia